เสน่ห์แห่งอำพัน Amber

เสน่ห์แห่งอำพัน Amber

.......................................................................

อัญมณีหนึ่งเดียวในปฐพีที่ถือกำเนิดจากต้นไม้

.......................................................................

          อำพัน เป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นนักสะสมซากพืชซากสัตว์โบราณ เพราะว่าธรรมชาติของอำพันนั้นจะเกิดจากยางของต้นไม้ยุคดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะยางของต้นสนหลายพันธุ์ เช่น สน Pinus Succinfera ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว อายุมากถึง ๒๕-๖๐ ล้านปีเลยทีเดียว

          ในตัวอำพันบางครั้งจะพบซากแมลงหรือซากพืชโบราณฝังตัวอยู่ในนั้นอย่างสวยงาม ซึ่งถูกใจผู้คนที่ชื่นชอบอัญมณีแนว อาร์ต ๆ เซอร์ ๆ เนื่องจากสีเหลืองที่มีมนต์เสน่ห์ และผิวของตัวอำพันเองที่มีความนุ่มนวล แฝงไปด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว และน่าหลงใหล

          อำพัน เป็นหินที่เบาเป็นพิเศษ และให้สัมผัสที่อบอุ่น อ่อนโยน เมื่อนำมาถูจะเกิดไฟฟ้าสถิตอ่อน ๆ ซึ่งเป็นของมีค่า และนิยมทำเป็นเครื่องประดับ เครื่องรางต่าง ๆ มาทุกยุคทุกสมัย

          ย้อนไปถึงสมัยอาณาจักรโรมรุ่งเรือง ถ้ากองทัพชาวโรมันออกทำศึก แล้วได้ชัยชนะกลับมาก็มักจะนำของมีค่า หรือวัตถุดิบต่าง ๆ ของผู้แพ้กลับมาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ อำพัน และยังพบว่า นักประวัติศาสตร์ชาวโรมันนามว่า ไพลนี (Pliny) กล่าวว่า “อำพันมีค่ามากกว่าทาสที่มีสุขภาพดีหนึ่งคนเลยทีเดียว”

          ชาวเยอรมันโบราณมักจะนำอำพันมาเผาเพื่อเป็นเครื่องหอมสำหรับบูชา ดังนั้นจึงเรียกอำพันว่า “Bernstein” or “burn stone” และในยุคกลางของฝั่งยุโรปถือว่า อำพันไร้สีเป็นชนิดที่ดีที่สุด โดยจะนำมาจัดสร้างเป็นสร้อยประคำของนักบวชในศาสนา

          แหล่งกำเนิด : แหล่งที่พบอำพันมากที่สุดคือ แถบทะเลบอลติคในตะวันตกของคาลินอินกราด (Kaliningrad) ในประเทศรัสเซีย และแหล่งอื่น ๆ แถบยุโรปอีก เช่น โปแลนด์, เดนมาร์ก, นอร์เวย์, อังกฤษ, โรมาเนีย, เยอรมัน, แคนาดา, เม็กซิโก รวมถึง สหรัฐอเมริกา แถบเอเชีย ก็จะมี พม่า

          สรรพคุณวิเศษ : อำพัน สามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะเครื่องประดับที่ต้องการขนาดที่ใหญ่เพราะตัวอำพันเองมีน้ำเบา และราคาไม่สูงมากนัก ส่วนมากมักจะทำเป็นลูกปัดขนาดใหญ่ ด้วยสัมผัสที่อุ่น และนุ่มนวล ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางด้านจิตใจ และใช้เป็น “ลูกปัดคลายกังวล” ได้อย่างดี ช่วยให้ผุ้ที่สวมใส่มีจิตใจที่เบิกบาน และผ่อนคลาย ปลดเปลื้องภาระต่าง ๆ ในชีวิตที่หนักหนาได้

          เชื่อกันว่า เมื่อนำอำพันแช่น้ำ หรือไวน์เป็นเวลา ๑-๑๔ วัน แล้วนำน้ำหรือไวน์นั้นมาดื่ม จะให้ผลทางด้านการบำบัดอาการ ปวดท้อง, ภูมิแพ้ ฯลฯ

          ราศีประจำอำพัน : ราศีพฤษก และ ราศีสิงห์

          ข้อควรระวัง : การเลือกซื้ออำพันต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากมีการนำพลาสติกมาสร้างเลียนแบบอำพันได้อย่างแนบเนียน ซึ่งมีวิธีการพิสูจน์ได้โดยการพิจารณาตำหนิที่มีอยู่ภายในตัวอำพันที่เรียกว่า “Sun Spangle” ซึ่งจะพบในอำพันที่เป็นของธรรมชาติที่ผ่านการเพิ่มคุณภาพด้วยความร้อน หรืออาจจะพิสูจน์ได้ด้วยการใช้มีดคม ๆ อย่างเช่นใบมีดโกน หรือ ใบมีดคัตเตอร์เฉือนที่เนื้ออำพัน ถ้าผิวที่หลุดออกมาเป็นขุย ๆ แสดงว่าเป็นอำพัน แต่ถ้าเฉือนออกมาเป็นแผ่น ๆ ก็สงสัยไว้ก่อนเลยว่าอาจจะเป็นพลาสติก ซึ่งควรหลีกเลี่ยง

         การดูแลรักษา : เนื่องจากอำพันกำเนิดมาจากยางไม้โบราณ จึงทำให้มีความคงทนต่ำ และเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่าอัญมณีชนิดอื่น ๆ จึงทำให้หมองได้ง่าย จึงต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเสียดสีกัน แนะนำว่าควรทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและใช้ผ้านุ่ม ๆ และเก็บรักษาไว้ในภาชนะที่มีผ้านุ่มรองหรือบุไว้อยู่

         อย่างไรก็ดีถ้าอำพันหมองลงไป คุณสามารถทำให้อำพันส่องแสงแวววาวขึ้นมาได้อีกครั้ง โดยการใช้ยาสีฟันป้ายแล้วขัดด้วยผ้านุ่ม เพียงเท่านี้อำพันก็จะกลับมาส่องแสงแวววาวอีกครั้ง ซึ่งเทคนิคนี้เป็นเทคนิคเดียวกับการขัดไฟหน้ารถยนต์ที่เก่าและหมองให้กลับมาใสสว่างอีกครั้ง

…………………………………………………………………………………………..
ติดตามเรื่องราว สาระ และบันเทิงที่เกี่ยวกับหิน ***กดไลค์เพจได้เลยค่ะ***
………………………………………………………………………………………….

อ.ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง
ผู้คิดค้นวิชา “หินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
..................................................................................
Facebook : หินเดินดาว ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์

เพชรกาญจนาภิเษก

"เพชรกาญจนาภิเษก"สุดยอดอัญมณีแห่งแผ่นดินสยาม ในรัชกาลที่ ๙

………………………………………………………………………………………….

เพชรกาญจนาภิเษก (Golden Jubilee Diamond)

เป็นเพชรเจียระไนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีขนาดใหญ่กว่าคูลลิแนน 1
หรืออีกชื่อว่า "ดาวใหญ่แห่งแอฟริกา" ซึ่งเป็นเป็นอดีตเพชรเจียระไนขนาดใหญ่ที่สุด
ในปี พ.ศ. 2451

“เพชรกาญจนาภิเษก” เป็นเพชรสีน้ำตาลขนาดใหญ่ หนัก 755.5 กะรัต (151 กรัม)
ได้มีการค้นพบปี พ.ศ. 2528 ในเหมืองพรีเมีรยร์ในประเทศแอฟริกาใต้
ซึ่งเพชรดังกล่าวภายหลังได้มีการตัดให้เหลือน้ำหนัก 545.67 กะรัต (109.13 กรัม)
...................................................................................................

การค้นพบและผ่านขั้นตอน

เพชรกาญจนาภิเษกค้นพบที่เหมืองพรีเมียร์ในประเทศแอฟริกา ทางตอนใต้ หนัก 545.67 กะรัต
โดยมี Gabi Tolkowsky เป็นผู้เจียระไนและต้องใช้เวลาเจียระไนถึง 3 ปีเต็มถึงจะสำเร็จ
โดยรูปแบบการเจียระไนนั้น ดูจากบันทึกการตรวจสอบ โดย Tolkowsky describes
ออกใบรับรองการเจียระไนเป็นรูปแบบ "fire rose cushion cut"

"สีน้ำตาลไม่มีชื่อ" (Unnamed Brown) เป็นชื่อแรกของเพชรนี้
ซึ่งส่วนใหญ่ถูกมองว่าเป็น “ลูกเป็ดขี้เหร่”
บริษัท De Beers เป็นผู้มอบให้ช่างเจียระไนฝีมือเลิศจาก เมืองแอนท์เวิร์ป

นามว่า Gabriel Tolkowsky ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบอุปกรณ์พิเศษ
และวิธีการตัดซึ่งพัฒนาโดยตั้งใจให้ใช้กับเพชรเซนทานารี (Centenary) สีดี ("ไร้สี") ไร้ตำหนิ
อุปกรณ์ และวิธีการเหล่านี้ไม่เคยทดสอบจริงมาก่อน จึงได้ทดลองกับเพชรเม็ดนี้

การตัดและขัดเพชรนี้เป็นงานท้าทายเพราะพื้นผิวใหญ่ รอยแตกลึกจากข้างใน
และอีกหลายสาเหตุประกอบกัน เพชรนี้จึงถูกตัดในห้องใต้ดินที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
เพื่อไม่ให้การสั่นสะเทือนภายนอกมารบกวน
จนได้เป็นเพชรที่มีเหลี่ยมที่สมบูรณ์ที่สุด คือ 148 เหลี่ยม
....................................................................................................

การทูลเกล้าถวายงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษก

ในปี พ.ศ. 2539 บริษัท De Beers ได้นำเพชรเข้ามาแสดงที่งานบีโอไอแฟร์ในประเทศไทย
ความงดงามของ "เพชรกาญจนาภิเษก" ได้ถูกกลุ่มนักธุรกิจไทยมองเห็นคุณค่าของเพชรนี้
และจ่ายเงินซื้ิอในราคาสูงถึง 6 ล้านเหรียญสหรัฐ

และเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
กลุ่มนักธุรกิจไทยจึงพร้อมใจกันน้อมเกล้าฯ ถวาย “เพชรกาญจนาภิเษก” แก่พระองค์
โดยแรกเริ่มได้มีแผนการว่าจะเชื่อมเพชรนี้ เข้ากับคฑา หรือ ตราประจำพระองค์
แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด

ปัจจุบัน “เพชรกาญจนาภิเษก” เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อยู่ที่พระบรมมหาราชวัง
โดยมีมูลค่าประมาณการอยู่ที่ 6-12 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

…………………………………………………………………………………………..
ติดตามเรื่องราว สาระ และบันเทิงที่เกี่ยวกับหิน ***กดไลค์เพจได้เลยค่ะ***
………………………………………………………………………………………….

อ.ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง
ผู้คิดค้นวิชา “หินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
..................................................................................
Facebook : หินเดินดาว ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์

"หินสีที่เหมาะกับอาชีพ"

"หินสีที่เหมาะกับอาชีพ"

เรามาดูกันนะคะว่าอาชีพไหน ควรใส่หินสีชนิดอะไรที่ส่งเสริม

และช่วยสร้างโอกาสที่ดีต่อการทำงานของคุณให้รุ่ง

และประสพความสำเร็จได้ดั่งใจ

1. พนักงานออฟฟิศ : โรส ควอตซ์ (Rose Quartz)

          เป็นหินที่แสดงถึงความรัก และการให้อภัย เสริมเสน่ห์ สร้างมิตรภาพช่วยให้ เจ้านายรักใคร่ ถือได้ว่าหินโรส ควอตซ์เป็นหินสี ครอบคลุมให้คุณประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน ปัจจุบันนิยมใช้หินชนิดนี้เป็นของขวัญแทนคำบอกรัก แทนความห่วงใยในทางบำบัดหินโรสควอตซ์ เป็นหินที่มีพลังขจัดความโกรธเกลียด หรือการอิจฉาริษยา คนที่อกหักจะช่วยให้รู้สึกรักตัวเองมากขึ้น และ หากอยู่ในที่ทำงานที่มีสถานการณ์ยุ่งยากเลวร้าย มีคนคอยเป็นศัตรูควรพกหินโรสควอตซ์ไว้เป็นเครื่องประดับ หรือหินเป็นก้อน วางไว้บนโต๊ะทำงานก็สามารถทำให้เกิดความสงบขึ้นในที่ทำงานได้เช่นกัน

2. พนักงานขาย : ไหมทอง (Golden Rutilated Quartz)

     เป็นหินของสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย จะนำความอุดมสมบูรณ์ และโชคลาภมาสู่ผู้เป็นเจ้าของสวมใส่ติดกายไว้หากมีการสื่อสารเรื่องเงินทองทำมาค้าขึ้น กิจการรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวยเรียกเงินเรียกทองให้กับผู้สวมใส่ อาจทำให้โชคดีเจรจาเป็นผลสำเร็จหรืออาจถูกลอตเตอรี่ได้รับรางวัลอย่างใดอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นหินสร้างความเชื่อมั่น ชำระล้างพลังด้านลบปกป้องคุ้มครองให้รอดพ้น จากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงเสริมอำนาจบารมีแก่ผู้เป็นเจ้าของ

3. แอร์โฮสเตส & สจ๊วต : บลู โครอล (Blue Coral)

          เป็นหินเครื่องรางของขลังขจัดสิ่งชั่วร้ายและปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่ยามเดินทางไกลให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างการเดินทางระหว่างประเทศจะปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง หรือหากมีเหตุให้ต้องประสบปัญหาในการให้บริการผู้โดยสาร พลังของหินนี้ก็จะช่วยให้ผู้สวมใส่มีสติในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น

4. พริตตี้และพิธีกร : บลู เลซ อำเกต (Blue lace agate)

          บลูเลซอาเกทเป็นหินสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเนื่องจากมีความเชื่อว่าผู้ที่ สวมใส่บลูเลซอาเกทจะพบกับความสุขและความสงบในชีวิตอีกทั้งยังสามารถบรรเทาอาการเครียดได้ดีอีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว บลูเลซอาเกตยังมีความสามารถในการช่วยให้เกิดความมั่นใจ มีความกล้าคิดกล้าทำ กล้าแสดงออกในที่สาธารณะ และยังช่วยส่งเสริมเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

5. พนักงานแบงค์ : ลาบราโดไรท์ (Labradorite)

          หินชนิดนี้จะเป็นตัวเชื่อมประสานให้เราทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตัวเราได้เป็นหินที่เหมาะจะใช้กับการนั่งสมาธิคนที่สมาธิสั้นช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างความคิดและการการทำงานให้มีความละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้นเหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้ความละเอียด ความรอบคอบในการทำงานสูง พลังหินจะช่วยบำบัดให้ผู้นั้นมีจิตใจที่สดชื่นแจ่มใสและมองโลกในด้านบวกทำให้สภาพจิตใจเข้มแข็งขึ้น

6. ครู อาจารย์ : ลาพิสลาซูลี (Lapis Lazuli)
เป็นหินที่เปิดดวงตาที่สามเหมาะกับทุกราศีเกิดเป็นหินที่เสริมสร้างสติปัญญา
ของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติของลาพิสลาซูลี คือ “พลังแห่งความหยั่งรู้”
หินชนิดนี้จะช่วยให้สามารถรวบรวมสมาธิได้ดี และยังสามารถสร้างความเชื่อมั่น
ให้กับผู้ฟังได้อีกด้วย

7. ดำรำ นักแสดง นักร้อง ศิลปิน : มูนสโตน (Moonstone)

          หินแห่งความรักนำพาความผูกพันมาสู่ผู้เป็นเจ้าของผู้ที่สวมใส่หินชนิดนี้จะได้รับการปกป้องคุ้มครองทางด้านอารมณ์เป็นอย่างดี เป็นหินที่เสริมสิริมงคลเสริมสร้างเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ เพิ่มความน่าเอ็นดู ความเมตตา และความรักใคร่กับผู้ที่พบเห็นอีกทั้งยังช่วยสร้างสมดุลให้กับผู้ที่อ่อนไหวง่าย

8. นักออกแบบ ศิลปิน : ไทเกอร์อาย (Tiger’s Eye)

          เป็นหินที่มีคุณสมบัติในการพัฒนาญาณหยั่งรู้ ให้เกิดในรูปของการมองเห็นเหมาะกับการใช้นั่งสมาธิช่วยกระตุ้นพลังชีวิตและพลังความคิดให้เกิดแรงบันดาลใจ เพิ่มพลังด้านความคิดสร้างสรรค์เพราะ พลังหินจะช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจให้ออกมา ในรูปของความคิดจินตนาการ และยังสามารถบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากความเครียดช่วยขจัดปัดเป่าฝันร้าย ขับไล่วิญญาณไม่ให้มาใกล้ สวมใส่เป็นเครื่องประดับหรือพกติดตัวไว้ จะมีพลังในการปกป้องคุ้มครองสูง

9. เจ้าของธุรกิจ : มาลาไคท์ (Malachite)

          เสริมอำนาจบารมี ความเจริญก้าวหน้า ป้องกันอุบัติเหตุ เสริมด้านคำพูดธุรกิจที่เกี่ยวกับการเจรจาต่อรองให้ประสบความสำเร็จมีความน่าเชื่อถือเป็นหินสีที่ส่งเสริมให้อนาคตของคุณดีขึ้น และช่วยให้เข้าถึงสมาธิได้เร็วขี้น ในด้านความเชื่อหากหินมีพลังแรงสั่นสะเทือน มีความหมายในด้านการเตือนภัยอุบัติเหตุ ที่จะเกิดค่อนข้างสูงเป็นการเตือนภัยล่วงหน้าหินจะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองต้านพลังร้าย จนบางครั้งทำให้หินแตก มีรอยร้าวเกิดขึ้นได้

          สำหรับท่านใดที่อ่านบทความนี้แล้วไม่มีอาชีพของท่านอยู่ในรายการข้างบนนี้ แต่อยากรู้ว่าอาชีพของท่านควรจะใช้หินประเภทใด ก็สามารถเขียนในช่องความคิดเห็นด้านล่างนี้ได้ อาจารย์จะเข้ามาตอบให้กับทุกท่านค่ะ

..................................................................................

อ.ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง
ผู้คิดค้นวิชา “หินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
..................................................................................
Facebook : หินเดินดาว ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์

3 ขั้นตอนการเลือกหินที่เหมาะกับเรา

   
     หลายๆ ท่านมักจะสงสัยว่า “เอ๊ะ! ทำยังไง เราถึงจะรู้ได้ว่าหินสีชนิดใดเหมาะสมกับเรา แล้วมีพลังงานที่ดีจริง และเป็นหินที่เกิดจากธรรมชาติจริง ไม่ใช่หินที่สังเคราะห์ขึ้น"

“ถ้างั้นเรามาดูเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกซื้อหินสีกันนะคะ" 

     อันดับแรก เลือกร้านก่อนเลยค่ะ ที่ต้องเลือกเพราะอะไรรู้ไหมคะ จะเล่าประสบการณ์ตรงให้ฟังว่า ดิฉันเองก็ เป็นคนชอบหิน และอินกับหินมาก ๆ พอไปเจอร้านหนึ่งเรียบหรูดูดีเห็นวางโชว์หินสวย ๆ เพียบเลย ก็เลยเข้าไปดู แต่ที่ไหนได้หยิบหินสีขึ้นมา สีมันติดมือเลยค่ะ เราเลยรู้เลยว่า ร้านนี้วางของจริง และของปลอม ปะปนกัน เจตนานั้นเราไม่รู้ไม่ขอเอ่ยถึง เพราะฉะนั้นการจะควักเงินออกจากกระเป๋าซื้อหินทั้งทีต้องดูให้ดี ๆ นะคะ 

     อันดับสอง เลือกหินสีที่เหมาะกับตัวเอง เหมาะกับวันเกิด เหมาะกับสิ่งที่เราต้องการพลังงานจากหิน ควรศึกษาความหมาย และพลังงานของหินสีให้ดีก่อนจะเลือกซื้อหินสี นะคะ

     อันดับที่สาม  หากบังเอิญเราเดินไปเจอหินในร้านสวยๆใช้วิธีตรวจสอบพลังงานของหินสีดังนี้เลยค่ะ หยิบหิน ก้อนนั้น หรือ เส้นนั้นขึ้นมา กำไว้ในมือ แล้วคุณจะได้สัมผัสถึงพลังงานพิเศษ เช่น หากคุณรู้สึกหินมันเย็น จับแล้ว สบายใจ อุ่นใจ แปลว่าคุณเจอพลังงาน + นั่นคือดี แต่ในทางตรงกันข้าม หากหยิบจับแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ ไม่ปลื้ม กับเส้นนี้รู้สึกกระวนวาย ไม่สดชื่น นั่นแปลว่า พลังงาน – คือ ไม่ดี ทั้งนี้ทั้งนั้น ดูวันเกิดคุณด้วยนะคะว่าเหมาะกับ สีไหน ใช้งานด้านใด

     บทสรุป คือ เลือกสีของหินให้ถูกโฉลกของตัวเอง เลือกหินสีตามความรู้สึก จิตใต้สำนึก หรือแรงบันดาลใจ (พลังงาน +) ก่อนซื้อควรทดสอบพลังงานหิน ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

     แต่ถ้าคุณอยากเลือกหินที่ช่วยส่งเสริมด้านอาชีพการงานของคุณสามารถอ่านบทความ

"หินสีที่เหมาะกับอาชีพ" ได้เลยค่ะ

..................................................................................

อ.ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง
ผู้คิดค้นวิชา “หินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
..................................................................................
Facebook : หินเดินดาว ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์

“วิชาหินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี

เอกสารการเรียน วิชาหินเดินดาว

     

สวัสดีค่ะวันนี้...ดิฉัน อ. ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง กรรมการฝ่ายวิชาการ สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์      

    วันนี้จะมาแนะนำวิชาใหม่ ๆ ในการพยากรณ์ ให้ทุกท่านได้รู้จักกันนะคะกับ “วิชาหินเดินดาว” เรามาดู กันนะคะว่าวิชานี้มีความน่าสนใจยังไงบ้าง ? 

      หินนั้นมีอายุมากกว่าสี่พันกว่าล้านปีและเป็นสิ่งที่เกิด จากธรรมชาติเกิดจากการทับถมของแร่ธาตุต่าง ๆ ผ่านกาลเวลา สะสมพลังงานจากธรรมชาติต่าง ๆ จนตกผลึกกำเนิดเป็นหินสีที่มีความสวยงาม และเปี่ยมด้วยพลังงานพิเศษ ด้วยพลังของความเป็นธรรมชาตินี้แหละค่ะ ที่สามารถนำมาใช้กับดวงดาว ในทางโหราศาสตร์ได้เป็นอย่างดี 

   

    ในยุคสมัยกรีกโบราณ มีบันทึกว่ามนุษย์ก็ได้มีการนำหิน มาใช้ในการเสี่ยงทายไม่ว่าจะในการเสี่ยงทายก่อนที่จะออกรบ หรือในการดูฤกษ์ยามเพื่อประกอบพิธีมงคลต่าง ๆ โดย กระทำการ ณ วิหารศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น อีกทั้งหินยังเป็นเครื่องรางของขลัง ตั้งแต่ชนชั้นสูงในสังคม จนถึงชนเผ่าต่าง ๆ ที่ กระจัดกระจายไปทั่วโลก ตามความเชื่อและประสบการณ์ ของแต่ละพื้นที่อยู่อาศัย แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่หินก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ และมนตร์ขลังในตัวเองอยู่เสมอ 

   

     ซึ่งจะเห็นได้จากในปัจจุบันนั่นคือ หินสีมีคุณสมบัติที่สามารถนำมาใช้ในการ บำบัดไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางจิตใจ โดยใช้พลังงานที่ สะสมในตัวหิน บวกกับความศรัทธา ความเชื่อเป็นที่ตั้ง ซึ่งนั่นก็ได้ผลเป็นอย่างดีและเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศ 

   

      นั่นก็เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ถือกำเนิด “วิชาหินเดินดาว” นี้ขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนและโอกาสจากท่านอาจารย์ชลันทรี จันทร์คล้าย เลขาธิการและอุปนายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ ต้องกราบขอบพระคุณมาก ๆ มา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ 

   

     หากหินใช้ในการรักษาบำบัดมนุษย์ได้เพราะฉะนั้นหินก็ ต้องสามารถนำมาใช้กับดวงกำเนิดของมนุษย์ได้เช่นกัน เพราะในหินสีแต่ละสีแต่ละชนิดนั้นก็มีความหมาย และพลังงานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งยังเชื่อมโยงกับหลักโหราศาสตร์อยู่ด้วย เช่น หินสีเหลืองเป็นของคนวันจันทร์ สีแดงเป็นของคนวัน อาทิตย์ และนี่เองจึงเกิดการคิดค้น “วิชาหินเดินดาว” ขึ้น 

   
     โดยนำเอาหินสีที่มีพลังงานธรรมชาติเหล่านี้มาใช้กับการพยากรณ์ ดวงชะตากำเนิดของมนุษย์
หลักการและวิธีการคร่าวๆของ“วิชาหินเดินดาว”มีดังนี้

แผ่นเดินดาว

          1. การทำนายเพื่อให้ชื่อสอดคล้องกับหลักวิชาโหราศาสตร์ จึงต้องใช้ “แผ่นเดินดาว”
          2. ใช้หินสีทรงกลม 12 ลูก 12 ชนิดในการทำนาย โดย แต่ละชนิดมีความหมายที่แตกต่างกัน
          3. จุดทำนายมี12ตำแหน่งแต่ละจุดมีหน้าที่และบอก เรื่องราวของชีวิตแตกต่างกันไป
          4. ใช้วิธีการเลือกจับหิน โดยที่เจ้าชะตาจะไม่สามารถ มองเห็นหินสีได้เลย
          5. ใช้หลักการทำนาย ของโหราศาสตร์กับความหมาย ของหินมาผนวกเข้าด้วยกัน
 

     “วิชาหินเดินดาว” นี้ใช้หลักการพยากรณ์ที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้งผู้ที่ศึกษาวิชานี้แล้วนอกจากจะสามารถใช้หินในการ พยากรณ์ดวงชะตาแล้ว ยังสามารถใช้หินในการบำบัด และ แนะนำหินที่ส่งเสริมพลังด้านดีป้องกันพลังงานด้านร้ายให้กับผู้ที่มารับการพยากรณ์ได้อีกด้วย
จึงขอจบการแนะนำ “วิชาหินเดินดาว” แต่เพียงเท่านี้•

..................................................................................

อ.ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง
ผู้คิดค้นวิชา “หินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
..................................................................................
Facebook : หินเดินดาว ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์

Rose Quartz “หินแห่งความรัก และการให้อภัย”

โรส ควอตซ์ (ROSE QUARTZ)  

“หินแห่งความรัก และการให้อภัย”

      วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ “หินแห่งความรัก” กันนะคะ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
โรส ควอตซ์ (Rose Quartz) เป็นหินควอตซ์ชนิดสีชมพูอ่อน คล้ายกับสีของกลีบกุหลาบ
สีชมพูที่อ่อนหวาน และบางครั้งก็มีสีเข้มขึ้นเกือบออกเป็นสีแดงเลยทีเดียว

ความหมาย : บำบัดเรื่องความนักไม่สมหวัง รักเขาแล้วเขาไม่รัก เป็นทุกข์เพราะความรัก
อยากให้ความรักสมหวัง มีความสุข เพียงแค่คุณรู้จักใช้หินสี รักนี้ก็สมหวังได้ไม่ยาก
หรือแม้แต่เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ดีอีกด้วย พลังของหินสีชมพูนี้ ยังช่วย
ทำให้ผู้ที่สวมใส่มีอารมณ์แจ่มใส จากที่โมโหหงุดหงิดจะใจเย็นลงได้

     โรส ควอตซ์ หรือที่เรียกกันว่า “ควอตซ์กุหลาบ” สีชมพูอ่อนใสที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจาก
ธาตุไทเทเนียม เหล็ก และแมงกานีสผสมอยู่ มีลักษณะโปร่งใส และโปร่งแสง

     จุดเด่นอยู่ที่สีชมพู ที่เชื่อกันว่า โรส ควอตซ์เป็นหินแห่งเทพวีนัส เต็มเปี่ยมไปด้วย
พลังแห่งความรัก และการให้อภัย สามารถขจัดความประหม่า เชื่อว่าช่วยรักษาแผลใจ
ของคนคนอกหักได้ และโรส ควอตซ์ ยังช่วยให้ผู้หญิงมีอารมณ์นุ่มนวล อ่อนหวาน
ช่วยให้ผู้ชายใจเย็นลง ดังนั้นจึงนิยมนำมาใช้ในการบำบัดอารมณ์ความรู้สึก
ของคนที่ต้องการความรักความเข้าใจ และยังช่วยให้คู่รักมีความรักที่ยืนยงอีกด้วย

     นอกจากความเชื่อเรื่องว่าเป็นหินแห่งความรักแล้ว ยังเชื่อกันอีกว่า โรส ควอตซ์
เป็นหินสีที่ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนต่าง ๆ ของร่างกาย และการทำงานของหัวใจ
และเป็นพิเศษในด้านความงาม เชื่อว่า โรส ควอตซ์ ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง สวยงาม
และดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

     โรส ควอตซ์ หรือ “หินแห่งความรัก” หินสีชมพู
มีลักษณะใส ช่วยในเรื่องความรัก การให้อภัย เสริมสร้างเสน่ห์ สร้างมิตรภาพ เสริมความร่ำรวย และปกป้องเด็กแรกเกิด มีตำนานกล่าวไว้ว่า สมัยโบราณ หินสีชนิดนี้ได้รับการนับถือว่ามีพลังด้านเมตตามหานิยม และเสริมสร้างด้านความรักใคร่

     สีชพูอ่อนของ โรส ควอตซ์ ช่วยทำให้รู้สึกเย็นตาเย็นใจ นำความรักและความสุขมาให้แก่ผู้ครอบครอง ให้พลังที่นุ่มนวลอ่อนโยน ทั้งยังช่วยส่งเสริมสร้างมิตรภาพ ความรู้สึกที่ดี ๆ ต่อกัน

     ทั้งนี้ทั้งนั้นนะคะ ความรักขึ้นอยู่กับคนสองคน ถ้าคิดจะรักต้องปรับจูนเข้าหากันด้วยนะคะ คิดจะพึ่งหินอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องอาศัยพลังแห่งรัก ของแต่ละบุคคลนั้น ๆ ประกอบเข้าไปด้วย

มีความสุขและรักกันมาก ๆ นะคะ
..................................................................................
 อ.ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง
ผู้คิดค้นวิชา “หินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
..................................................................................
Fan page : หินเดินดาว, ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์

หินกับชีวิต

“หินกับชีวิต”

สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้ขอแวะเวียนมาเรื่องหินกันสักนิดนึงนะคะ!
คุณทราบไหมคะว่า “หิน” อยู่คู่กับมนุษย์มากี่พันปี บอกได้เลยว่าหลายพันปีมาก ๆ ค่ะ

เฉลยให้เลยแล้วกันนะคะ.........
มีรายงานการพบก้อนหินที่มีอายุเก่าแก่ถึง  4.28 พันล้านปีเลยทีเดียว
ซึ่งบริเวณที่พบหินก้อนที่เก่าแก่นี้ ถูกพบอยู่ที่ “อ่าวฮัตสัน ประเทศแคนนาดา”
การค้นพบครั้งนี้เป็นการทำลายสถิติใหม่ของก้อนหินที่ มีอายุมากที่สุดเท่าที่
มนุษย์เคยพบมา (ที่มา : BBC)

     นั่นแหละค่ะ! คือตัวที่บ่งบอกได้เลยว่า ทางยุโรป หรือ “อาณาจักรกรีซ” ในสมัยโบราณนั้น
นิยมใช้หินกันมาก ๆ โดยเฉพาะหินสีต่าง ๆ (Gemstones)  โดยกลุ่มชนชั้นสูงในสังคม
หรือแม้กระทั้ง ชนกลุ่มเผ่าเล็กเผ่าน้อยทั่วโลก ก็มักนิยมใช้เป็นเครื่องราง และของขลัง
เพื่อพกติดตัวไว้ช่วยคุ้มครอง และ ช่วยในการคว้าชัยชนะในการรบต่าง ๆ

     และอีกสิ่งหนึ่งคือ ใช้หินสีเพื่อในการเสี่ยงทายในพิธีสำคัญ เช่น การขอพรจากเหล่าเทพเจ้า
เพื่อการออกรบ เสี่ยงทายเพื่อทำนายเรื่องการมีบุตรว่าจะได้เพศหญิงหรือชาย
ในขณะที่ราชินีทรงพระครรภ์ เป็นต้น

     จวบจนมาถึงยุคสมัยปัจจุบันนี้ ก็ยังคงความนิยมในการใช้หินสีต่าง ๆ (Gemstones) ยังมีอยู่
และที่นิยมกันมากในตอนนี้ก็คือ การนำหินสีมาใช้เพื่อการบำบัดจิต หรือเพื่อเสริมสร้างพลังงานบวก
ช่วยต้านพลังงานด้านลบ เสริมโชคลาภ สุขภาพ และมีอีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ

     พลังงานของหินสี ยังสามารถนำมาใช้กับดวงดาวในทางโหรศาสตร์ เพื่อใช้ในการพยากรณ์
ทำนายดวงชะตาได้อีกด้วยเช่นกัน

     จะเห็นได้ว่าหินนั้นผูกพันกับวิถีชีวิตมนุษย์มาอย่างยาวนาน ด้วยเสน่ห์ด้านความงาม พลังงานของหินสีต่าง ๆ Gemstones เราใช้ทั้งการประดับตกแต่ง เพื่อทั้งบำบัดทั้งทางกายภาพ และทางจิตใจ ยากที่จะแยกออกจากกันได้เลยค่ะ


...............................................................................................
อ.ณิชารัศมิ์ สิริแสงสว่าง
ผู้คิดค้นวิชา “หินเดินดาว” ศาสตร์การพยากรณ์ด้วยหินสี
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
...............................................................................................
Fan page : หินเดินดาว, ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์